ในบทความชุดนี้ จำนวน 9 บทความ ผมได้นำเสนอไปว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง พอดีไปพบกระทู้ที่คนอยากจะรู้เหตุผลว่า “ทำไม ไม่เชื่อเรื่องเด็กระลึกชาติ” ในห้องหว้ากอ ของเว็บพันธุ์ทิพย์ เลยเอามาวิพากษ์วิจารณ์ไว้ในบล็อกนี้
ชื่อของกระทู้
และเนื้อหาของกระทู้ดังกล่าวมีสั้นๆ ดังนี้
เด็กระลึกชาติได้ก็มีมากมายทำไมถึงไม่เชื่อ?
มีเหตุย่อมมีผล
หากตัวคุณยังรับผลไม่หมดในชาตินี้แล้ว ตายซะก่อน ยังไงคุณต้องมารับผลในชาติหน้า
เหตุจะหายไปเฉยๆ ไม่ได้
เหมือนอนุภาคกับปฏิอนุภาคที่ต้องทำลายล้างกันไปให้เป็นศูนย์
ฉันใดก็ฉันเพล
คิดยังไงก็เป็นตรรกะที่สมบูรณ์แบบในตัวของมันเอง ถ้าไม่เห็นแสดงว่ามีกรรมบังตา
หลักฐาน: เด็กระลึกชาติทั่วโลก
อันที่จริงแล้วกระทู้นี้
ชื่อของมันก็ OK
อยู่ แต่คำอธิบายกระทู้ของมันก็มั่วเสียเหลือเกิน
มาวิพากษ์วิจารณ์ความคิดเห็นกันเลย
ดูซิว่า คนที่มาให้ความคิดเห็นในห้องหว้ากอ มันจะสมองหมา
ปัญญาควายเหมือนในห้องศาสนาหรือไม่
ความคิดเห็นที่ 2
ผมไม่เคยเห็นเด็กระลึกชาติคนไหนประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเลยครับ
ถ้าระลึกชาติได้จริง
ทำไม ไม่เอาความรู้ความสามารถของชาติที่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่มนุษยชาติล่ะครับ?
ความคิดเห็นนี้
เข้าข่ายสมองหมา ปัญญาควาย....
คนให้ความคิดเห็นมันไม่เชื่อ
มันก็เลยพยายามหาเหตุผลที่จะมาสนับสนุนความไม่เชื่อของมัน แต่ความที่มันโง่ เหตุผลที่มันเสนอมา จึงเป็นเรื่องโง่ๆ ของไอ้พวกโง่
“การที่เด็กระลึกชาติได้” กับ “การประสบความสำเร็จในชีวิต”
มันไม่ได้เกี่ยวกัน ถ้ามันเห็นว่า ทั้ง 2
เรื่องเกี่ยวข้องกัน มันก็ต้องอธิบายให้ได้เสียก่อน
อันที่จริงแล้ว ยังมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถทำอะไรได้อย่างมหัศจรรย์แบบไม่เคยฝึก
ไม่เคยเรียนมาก่อน
และวิทยาศาสตร์ก็มึนอธิบายไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
แต่เด็กพวกนี้
ระลึกชาติไม่ได้
ผมขอยกตัวอย่างของเด็กหญิง
Amira
Willighagen อายุ 9 ปี ตอนที่เข้าแข่ง Holland's Got Talent 2013 กับ เด็กหญิง Connie
Talbot อายุ 6 ปี ตอนที่เข้าแข่ง Britain's Got Talent 2007 เด็กหญิงทั้ง 2 คนนั้น
ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งคู่ ตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว
เด็กหญิง
Amira
Willighagen นั้น ไม่เคยฝึกร้องเพลง Opera มาก่อนเลย
เมื่อจะมาเข้าแข่งขันก็เปิด youtube ดู เห็นเพลงเพราะดี
ก็เอามาร้องแข่งขัน
ตอนนี้
กรรมการถามว่า “ไปเรียนกับใคร” Amira Willighagen ก็งงๆ เพราะ
ไม่ได้เรียนกับใครมาเลย ไปดูวิดิโอของเด็กทั้งคู่ด้านบน สนใจก็ดูวิดิโออื่นๆ ได้ใน youtube
ความคิดเห็นที่ 3
รู้ความแตกต่างของการท่องจำ กับ เข้าใจไหมครับ
ระลึกชาติ มันไม่ใช่แค่บอกรายละเอียดของชาติก่อนได้
มันต้องเอาความรู้จากชาติก่อนมาใช้ได้
เอาเด็กระลึกชาติ
มาทำข้อสอบตามระดับการศึกษาของชาติที่แล้วดู ถ้าทำไม่ได้ ก็แค่ปาหี่แหกตา หลอกคนไร้ปัญญาได้เท่านั้นแหล่ะครับ
ไอ้นี่ก็สมองหมา
ปัญญาควายเพราะความไม่เชื่ออีกคนหนึ่ง
มันไปเอาเกณฑ์มาจากไหนที่ว่า “ระลึกชาติ
มันไม่ใช่แค่บอกรายละเอียดของชาติก่อนได้ มันต้องเอาความรู้จากชาติก่อนมาใช้ได้”
มันไม่เชื่อเรื่องนี้
เสือกไปตั้งเกณฑ์แบบแปลกประหลาดมาอีก
ความคิดเห็นที่ 5
รู้ได้ไงว่าเป็นระลึกชาติ อาจจะเป็น
1 ประสาทหลอน
2 ผีเข้า
ไอ้นี่
ยังสมองหมา ปัญญาควายสุดๆ มันไม่เชื่อ และมันไม่ได้ศึกษาด้วย เดาไปใหญ่โต
เรื่องการระลึกชาตินี้
นักจิตวิทยาเขาศึกษากันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ผู้ศึกษาที่มีชื่อเสียงมากๆ ก็เช่น ดร. เอียน สตีเวนสั้น
ดร. ไบรอัน ไวสส์
เป็นงานการศึกษาที่ยอมรับกันในทางวิชาการ
ตรงนี้ตรงอธิบายว่า
วิทยาศาสตร์มันมีหลายสาขามาก
สาขาหนึ่งยอมรับในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สาขาอื่นๆ เขาอาจจะไม่ยอมรับก็ได้
นักวิทยาศาสตร์จริงๆ
ถึงจะไม่ยอมรับ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธออกมา เพราะ ไม่ใช่สาขาที่เขาเชี่ยวชาญอยู่
ไอ้ที่ปฏิเสธแบบสมองหมา ปัญญาควายแบบในเว็บพันธุ์ทิพย์มันเป็นพวก “เศษวิทยาศาสตร์”
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่ใช่ประสาทหลอน ผีเข้า มายากล หรือโกหก
ถ้าโกหกจะตามไปบ้านเดิมถูกได้ไง? ย้ำ ถ้าโกหกจะตามไปบ้านเดิมถูกได้ไง?
ความคิดเห็นที่ 7-2
แล้วรู้ได้ยังไงว่าไม่ได้เตี๊ยมกันมา
แล้วรู้ได้ยังไงว่าเป็นบ้านเดิมแน่ๆ?
ความคิดเห็นที่
7 เป็นเจ้าของกระทู้
พยายามมาปกป้องแนวคิดของตัวเอง
ส่วนความคิดเห็นที่ 7-2 มันก็เป็นพวกสมองหมา ปัญญาควายสุดๆ อีกคนหนึ่ง
เด็กที่ระลึกชาติได้นั้น
ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่อายุประมาณ 2-3 ขวบ
โตๆ ขึ้นก็จะลืมเรื่องนี้ไป
จากการอ่านหนังสือกรณีที่เด็กระลึกชาติได้มาหลายเล่ม
เด็กอายุ 2-3 ขวบนั้น จะให้เตี๊ยมอย่างไรก็ทำไม่ได้
ส่วนใหญ่แล้ว
มันไม่ใช่เรื่องเตี๊ยมกันด้วย
พ่อแม่ในชาติปัจจุบันไม่อยากทำเสียด้วย แต่ทนการรบเร้าของเด็กไม่ได้
โดยสรุป เรื่องการระลึกชาติจากการศึกษาของนักจิตวิทยา
เป็นเรื่องจริงที่ยอมรับได้ เพราะ นักจิตวิทยาเขาก็ศึกษาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ไอ้พวกเศษๆ
วิทยาศาสตร์ ศึกษาไม่มากนัก แต่มันไม่เชื่อแต่เดิม มันก็หาเหตุผลแบบสมองหมา
ปัญญาควายปฏิเสธไปเรื่อยตามความโง่ของมัน
เหตุผลที่มันหามานั้น
ไม่ได้เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักที่น่าเชื่อถือในทางวิชาการ มันคิดอะไรของมันได้
มันเอาพ่นออกมา